Monk – End game




 Monk เป็นอาชีพ DPS ที่สูงที่สุดในเกมถ้ามีโอกาสได้ตีตลอดเวลา(ปล.ตอนนี้ Ninja ตีแรงสุดนะครับ) เนื่องจากจะมีบัฟที่ชื่อว่า “Grease Lightning” ที่จะเพิ่มความแรงและ skill speed แต่ถ้าไม่มี ความแรงนั้นแทบจะเทียบเท่าแทงค์เลยทีเดียว ปัจจัยหลักในการเล่นให้ดีๆคือการเมเนจคอมโบไม่ให้บัฟหลุดครับ
ท่าทุกท่าของมองค์จะทาให้เปลี่ยนฟอร์มเพื่อให้สามารถใช้สกิลต่อไปได้ สาหรับคนที่เล่นมาถึงเลเวล 50 คงจะไม่ต้องอธิบายอะไรมาก และสกิลแต่ละสกิลควรจะตีให้ถูกตาแหน่งครับ ด้านข้าง (Side) และด้านหลัง (Back) เพื่อให้ได้ความแรงที่สูงที่สุด
เทคนิคการตีข้าง ตีหลัง กรณีบอสตัวใหญ่ (รูปเอามาให้ดู target circle เฉยๆครัช เพราะมอนบางตัวมองหน้าหลังไม่ออก ก็ดูแหลมๆบน circle เอา)

ตาแหน่งในอุดมคติ ที่ขยับน้อยที่สุด


ในกรณีบอสตัวใหญ่ๆเราก็หาจุดศูนย์กลางวงกลมบน Target Circle แล้วลองนึกภาพให้มีเส้นแทยงมุมสองเส้นผ่ากลางจุดศูนย์กลางของวงกลม แล้วขยับเพียงนิดเดียวระหว่างเส้นทแยงมุมนั้นก็จะเปลี่ยนข้างหน้าและข้างหลังแล้ว (ตีใต้ตัวบอสยังได้) สังเกตง่ายๆจากบอส T8 โดนดูจากขามัน จะทาหน้าที่เป็นกากบาทในรูปให้เลยครับ เราแค่ขยับไปมาระหว่างขามันก็พอแล้ว
Forms
เปิด Fist of Fire ไว้เสมอครับ เพิ่มดาเมจอีก 5% แต่บางบอสไฟท์เราสามารถช่วยฮีลเลอร์ได้ด้วย Fist of Earth ลดดาเมจอีก 10% ครับ แล้วเปลี่ยนกลับมาเป็น Fist of Fire เหมือนเดิม (เช่น สกิลอัลติของบอสตอนเปลี่ยนเฟส , ท่าโฉบบอส T9) ให้ใช้ตอนที่ไม่สามารถตีบอสได้เท่านั้น
ครับ สามารถช่วยป้องกันการพลาดตายได้เยอะเลยทีเดียว ส่วน Fist of Wind เอาไว้เดินเร็วเฉยๆครับ ไม่ค่อยมีประโยชน์ในไฟท์เท่าไหร่ (เว้นแต่คนจะใช้ใน T7 วิ่งไปหลบหลังยักษ์ หรือ T9 วิ่งวางหิน แต่ถ้าไม่ทันผมก็ยอมกด sprint แล้ว Invigorate ดีกว่า) )
Tips การสู้
ขอเรียกเป็น Tips นะครับ ผมไม่อยากให้คิดว่ามันเป็นคอมโบตายตัว เพราะทุกอย่าง ทุกอาชีพการกดสกิลนั้นมันต้องแล้วแต่สถานการณ์ครับ อันดับแรกที่เราควรทาคือ พยายามปรับ UI ที่ทาให้เราเห็นได้ตลอดเวลาว่าตอนนี้เราติดบัฟอะไรอยู่ มอนติดดีบัฟอะไรอยู่บ้าง
MNK นั้นการสู้จะต่างกับ melee หรือ tank สายอื่นที่ต้องตีตามคอมโบเท่านั้น เพราะการใช้แต่ละท่าต้องอยู่ในฟอร์มก่อน เพราะฉะนั้นเราสามารถแทรกท่าอื่นได้ตลอดเวลา (พวก DoT/Cross-Class skill) โดยไม่ต้องห่วงว่าต้องเริ่มใหม่ ตราบเท่าที่เวลา Grease Lightning เหลือให้จบคอมโบปกติครับ เพราะฉะนั้นถ้า DoT ร่วง ก็แทรกเข้าไปได้เลย
- Dragon Kick , Touch of Death(DoT) , Demolish(DoT) ควรเป็นสกิลที่ติดอยู่ในดีบัฟทาร์เก็ตอยู่เสมอ (มอนกระจอก ก็ดูเอาครับว่าเลือดมันจะตายก่อน DoT แล้วหมดหรือเปล่า ถ้าตายก่อนก็ไม่ต้องใช้ครับ)
- Twin Snake ควรติดอยู่ในบัฟเราเสมอ
- ไม่มีฟอร์มอะไรเลย ไม่มี perfect balance ก็ bootshine ไปเลยครับ แรงกว่า dragon kick เพราะ dragon kick จะติดดีบัฟต้องอยู่ในฟอร์มเท่านั้น
- กรณีมี mnk อีกคนในตี้แล้วเขาเติม Dragon Kick เรื่อยๆ ไม่ต้องเติมซ้านะครับ มันซ้อนกันไม่ได้ (คล้ายๆท่าเสริมความแรงการแทงของ drg) ใช้ Bootshine ไปเลย dps จะสูงกว่า
- ถ้าเป็นไปได้ให้กดบัฟเพิ่มพลังโจมตีก่อน off-gcd (Howling Fist , Steel Peak) และ DoT (Fracture, Touch of Death) แต่ถ้าต้องรอบัฟนานก็กดไปก่อนเลย
- Shoulder Tackle ใช้เวลาต้องหลบสกิลหรือเข้าเมคานิคต่างๆที่อยู่ไกลบอส กดเพื่อเข้าถึงบอสได้ในทันที
- Apply DoT ถ้ารู้ว่าเป้าหมายกาลังจะกระโดดหนีไปนานแสนนานจน Grease Li
- หลักเลี่ยงการใช้ Steel Peak , Shoulder Tackle ในไฟท์ที่แทงค์ต้องใช้สตัน เพื่อไม่ให้เกิด stun resisted
- ถ้าจะใช้คอมโบ AoE ก็ Arm of Destroyer > Twin Snake/True Strike > Rock Breaker และ Howling Fist ครับ

Cross-over Skill
ต้องเอามา:
- Blood for Blood (LNC lv.34) บัฟเพิ่มดาเมจ
- Invigorate (LNC lv.22) เพิ่ม TP เพราะม๊องค์ซด TP ไวมาก ใช้ตอนประมาณ TP เหลือ 500-550 TP
- Mercy Stroke (MRD lv.26) มี potency 200 ยิ่งใช้ตอน GLIII (Grease Lightning III) แล้วโหดใช่ย่อยเลยครับ (เป็นไปได้อัดบัฟไปก่อน คุ้มครับ)

เลือกใช้:
- Foresight (MRD lv.2) บัฟเพิ่มพลังป้องกันจาก defense เรา เนื่องจาก mnk มีเกราะที่น้อย สามารถลดความแรงได้ไม่เกิน 5% ครับ แต่ลดได้บ้างก็ยังดีกรณีไม่รู้จะเอาสกิลอะไรมา
- Bloodbaht (MRD lv.8) ตีไปดูดเลือดไป ส่วนใหญ่จะใช้คู่กับ Blood for Blood ไม่ก็ตอนเลือดลดไปเยอะๆ ลดภาระฮีลเลอร์
- Fracture (MRD lv.6) เป็น additional DoT กิน TP ค่อนข้างเยอะ ควรใช้กับไฟท์ที่มีเวลาพักนานๆเท่านั้น (T8 ไม่ควรอย่างยิ่ง)


- Impulse Drive (LNC lv.8) มี potency 180 ถ้าตีข้างหลัง แต่แนะนาใช้คอมโบปกติน่าจะดีกว่า (มีคนคานวนไว้แล้วว่าการกดคอมโบวนปกติแรงกว่าเอาสกิลนี้ไปแทรก
- Keen Fury (LNC lv.8) เพิ่ม parry rate 50% เป็นสกิลที่น่านามาใช้ที่สุดถ้าต้องโดนโจมตีแบบ physical แรงๆ

DoT (Damage over Time)
การทางานของ DoT เกมนี้เป็นระบบแบบ Global tick กล่าวคือ ทุกๆเวลา 3 วินาทีของเซิฟเวอร์ในเกม ดาเมจจาก DoT ทุกอย่างจะเด้งขึ้น (tick) โดยแม้ว่าเราจะใส่ DoT ตอนเหลือ 3 วินาที เราก็ไม่สามารถว่า DoT สุดท้ายเด้งไปแล้วรึยัง วิธีที่เซฟสุดก็ทาได้เพียงแค่ใส่ DoT ซ้าหลังมันเหลือต่ากว่า 3 วินาที เท่านั้นครับ
ด้วย DoT เกมนี้จะดูความแรงจากตอนที่เราทำการ apply DoT ถ้าเป็นไปได้ถ้ามีบัฟก็ควรกดก่อนจะ apply ครับ การใช้ Blood for Blood ก่อน apply จะเป็นอะไรที่ดีที่สุด (Blood for Blood มีระยะเวลา 20 วินาที การจะนำดาเมจจาก DoT ให้สูงที่สุดขอแนะนาตามนี้ครับ Demolish เหลือน้อยกว่า 3 วิ > Blood for Blood > Demolish > Touch of Death แล้วพอ Demolish ใกล้หลุดก็จะสามารถ apply ได้อีกทีโดนที่ Blood for Blood ยัง active อยู่ครับ)
Fracture เป็น DoT ที่ครอสมา มี potency ค่อนข้างสูงแต่ก็กิน TP ค่อนข้างเยอะเช่นกัน แนะนาให้ใช้ในกรณีบอสหมุนไปหมุนมา เพราะมันไม่ขึ้นกับตาแหน่ง แต่ในไฟท์ระยะยาวมากๆก็ควรหลีกเลี่ยงครับ
DoT ทุกอันไม่นับเป็น Blunt Damage ครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าต้องใส่ Dragon Kick ก่อน DoT (แต่ Twin Snake ต้องนะ)
Total DoT Potency Touch of Death: 20 potency attack + (30s/3 seconds per tick)*25 potency per tick = 270 total potency
Demolish: 30 potency attack (Rear: 70) + (18s/3 seconds per tick)*40 potency per tick = 270/310 total potency
Fracture: 100 potency attack + (18s/3 seconds per tick)*20 potency per tick = 220 total potency
นี่เป็นกรณีได้ทุก tick ซึ่งก็จะไม่ได้เสมอไปขึ้นอยู่กับเวลาที่เรา reapply DoT

Grease Lightning Management
เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการเล่น Monk ครับ ถ้าเราจัดการบัฟนี้ได้ดี ไม่มีทางที่ dps จะต่ำครับ จุดหลักๆคือคนเล่น monk จาเป็นต้องรู้การเคลื่อนไวของบอสล่วงหน้า ว่าบอสจะหนีเมื่อไหร่ กระโดดเมื่อไหร่ บัฟนี้สาคัญสุดสาหรับ monk ครับ (หลุดทีนึงเท่ากับว่าเราต้องกดถึง 9 สกิลเพื่อกลับมาเป็น Grease LightningIII กรณีไม่มี Perfect Balance))
- ถ้ามีตัวอะไรที่ต่อยได้ระหว่างบอสไม่อยู่ ให้ต่อยไป เช่น หินระเบิดในไททัน
- อยู่ห่างเป้าหมายให้ใช้ Shoulder tackle เพื่อเข้าใส่ทันที
- ถ้าเป้าหมายกระโดดหนีในเวลากระชั้นชิดไม่ควรแทรกสกิลอื่นในคอมโบนั้น (ถ้าจะแทรก DoT ก็แทรกในคอมโบก่อนหน้านั้น)
- กรณีเป้าหมายจะกระโดดหนีเป็นระยะเวลาที่ grease lightning เราจะหลุดแน่ๆ ฝาก DoT ให้มันก่อนมันโดดด้วย
- แอคทีฟตลอดเวลา ลองเทสหลายๆอย่างที่คิดว่าดีที่สุด เพราะแต่ละไฟท์สาหรับ monk ไม่เคยเหมือนกัน

Rotation
เนื่องจากผมไม่มั่นใจในโรเทชันตัวเอง จึงขอยกตัวอย่างมาจากเวปอื่นครับ DM-Demolish, PB-Perfect Balance, TS- True Strike, BS-Bootshine, TW-Twin Snake, DK-Dragon Kick, SP-Snap Punch, ToD-Touch of Death, GL-Grease Lightning
กรณีไม่มี perfect balance
ToD -> BS -> TW -> DM (GL1) ตามด้วย
DK -> TS -> SP (GL2) ตามด้วย
BS -> TW -> SP (GL3) -> DK -> TS -> DM
แล้วก็วนครับ อย่าลืม apply DoT ทุกครั้งที่จะหมดด้วย
กรณีมี perfect balance
PB -> DM -> DK -> SP -> TW -> SP ตามด้วย
ToD -> BS -> TS -> SP -> DK -> TW -> DM -> วนลูปบรรทัดนี้
Perfect Balance นั้นถ้ากดเร็วๆหน่อย จะสามารถกดได้ถึง 5 สกิล แต่บางทีระหว่างเรากด บอส AoE ใส่ทาให้เราต้องหลบ แนะนาว่าควรให้ความสาคัญกับ GLIII ให้ได้ก่อน และ Dragon Kick ครับ ส่วน Twin Snake ให้ความสาคัญหลังสุด
ในการต่อสู้ระยะยาวคอบโบเปิดมีผลไม่มากเท่าไหร่ แนะนาว่าไม่ต้องจามากเพราะแต่ละไฟท์ จังหวะมันต่างกัน ให้พยายามไม่ให้ buff และ debuff/DoT ขาดก็พอครับ

Macro
การใช้มาโครก่อนให้เกิดส่วนต่างในการกด การเล่นโดยไม่มีมาโครย่อมดีกว่า แต่ผมใช้มาโครนี้เพื่อความง่ายในการกด และลดโอกาสพลาดในการกดผิดสกิล และแก้ดีเลย์ด้วยการกดรัวๆแทนครับ (ดีเลย์มีในระดับ millisecond)
Macro ตีด้านหลัง
/micon "True Strike" 
/ac "Demolish" <t> 
/ac "True Strike" <t>
Macro ตีด้านข้าง
/micon "Snap Punch"
/ac "Snap Punch" <t> 
/ac "Twin Snake" <t>
เนื่องจาก mnk มันต้องเข้าฟอร์มก่อนถึงใช้แต่ละสกิลได้ มันจะใช้ได้แค่สกิลใดสกิลหนึ่งเท่านั้น กรณีอยากเปลี่ยนรูป icon ให้เปลี่ยนทั้งคู่ (หลังเป็น Demolish , ข้างเป็น Twinsnake) เพื่อไม่ให้สับสนว่าตอนนี้กาลังอยู่ในฟอร์มไหน
หมายเหตุ : ที่ไม่ใส่ Bootshine กับ Dragon kick มาในมาโครเนื่องจาก 2 ท่านี้กดในฟอร์มไหนก็ได้ บางทีกดรัวๆมันดันไปติด 2 ท่านี้แทน rotation จะมั่วเอา
Macro เสริม
Bootshine 
/micon “Bootshine” 
/ac “Bootshine” <t> 
/ac “Mercy Stroke” <t>
Dragon Kick /micon “Dragon Kick” /ac “Dragon Kick” <t> /ac “Mercy Stroke” <t>
เนื่องจากผมมักจะลืมใช้ Mercy Stroke ครับ ไม่มีอะไรมาก

Stats
Stat Priority: Strength -> Accuracy (until cap) -> Determination -> Critical Rate -> Skill Speed
Weapon Damage : ไม่น่าต้องอธิบายอะไรเพิ่ม
Accuracy: ควรจะเอาให้ถึง capped ในแต่ละไฟท์ก็พอ แล้วเอาไปลงค่าอื่นดีกว่า
Determination: เพิ่มพลังโจมตี รวมถึงความแรงของ second wind ด้วย
Critical: เนื่องจากบอสแต่ละตัวความสามารถป้องกัน Critical ต่างกัน (ถึงจะรวม Internal Release แล้วก็เถอะ) ค่านี้จึงให้ความเสถียรได้ไม่เท่า Determination เท่าไหร่
Skill Speed: เดิมที mnk ก็ซด TP เยอะอยู่แล้ว ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งซดเร็วครับ (แต่ใช่ว่าไม่ดีนะ) ถ้าเลือกได้เอา Determination ไม่ก็ Critical ดีกว่า แต่ถ้าเลือกไม่ได้ ค่านี้ก็ยังมีประโยชน์อยู่ครับ

Credit and Reference:

http://blog.arisegaming.org/?p=30

ขอบคุณข้อมูลดีจาก
Share on Google Plus

About Unknown

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 comments:

Post a Comment